5 วิธีพิชิตใจ หนุ่มรุ่นน้อง ให้อยู่หมัด

1. อย่าทำตัวให้ดูโตกว่าเยอะเกินไป
ถึงแม้ว่าเรื่องอายุจะเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น แต่การวางตัวและความห่างของประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาก็อาจจะทำให้คุณโดนเทได้เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าเรากำลังมีใจให้กับหนุ่มรุ่นน้องอยู่นั้น เราจะต้องเปิดใจเข้าหาเขาก่อน และห้ามวางตัวให้เข้าถึงยากโดยเด็ดขาด เพราะถ้าเราอาจจะพิชิตใจหนุ่มรุ่นน้องเราก็ต้องลองวางตัวให้ดูเด็กลง เข้าถึงง่าย ไม่สอนหรือสั่งเขาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องยอมรับฟังเขาบ้าง พูดง่าย ๆ ก็คือ เราจะต้องลองเป็นผู้ตามดูบ้าง

2. ทำให้เขารู้ว่า เขาคือคนพิเศษ
รักไปแล้วถ้าไม่บอก แล้วเขาจะรู้ไหม... ถ้าเรามั่วแต่อยู่เฉย ๆ ไม่ยอมทำอะไรเลย ไม่แสดงออกว่าเขาคือคนพิเศษสำหรับเรา แล้วเขาจะไปรู้ได้อย่างไร สุดท้ายก็ต้องกินแห้ว เพราะว่าหนุ่ม ๆ ที่มีอายุน้อยจะชอบความรู้สึกแบบว่า มีผู้ผญิงกำลังสนใจเขาอยู่ หรือคิดว่าสิ่งที่เขาทำ เขาพูดเป็นเรื่องที่สำคัญและมีคนสนใจในสิ่งที่เขาต้องการสื่อออกไป ฉะนั้นเวลาคุณสาว ๆ ได้คุยหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับหนุ่มรุ่นน้องที่แอบชอบก็ควรที่จะแสดงออกไปเลยว่าเรากำลังสนใจเขาอยู่ (แต่ก็แสดงพองามนะจ๊ะ อย่าเยอะเกินไป เพราะเขาอาจจะกลัวและเทเราไปได้)

3. แสดงความรักด้วยภาษากาย
การสื่อสารด้วยภาษากาย ไม่ว่าจะเป็นการชม้อยชายตามอง หรือการแตะเนื้อต้องตัวแบบเนียน ๆ ก็ล้วนแต่เป็นการสื่อได้ว่าคุณกำลังแอบมีใจให้กับหนุ่มรุ่นน้องคนนี้อยู่ แต่การสื่อออกทางกายก็ต้องทำพองาม ไม่มากจนเกินไปนะ เพราะหนุ่มเขาคงไม่ชอบหรอกถ้าจะผู้หญิงที่ยังไม่ใช่แฟนมาแตะเนื้อต้องตัวมากเกินไปหรือบ่อยจนเกินไป จากที่เขาประทับใจในตัวเรา อาจจะกลายเป็นกลัวและหนีไปในที่สุดได้นะ.. เดี๋ยวจะโดนเทไม่รู้ตัวเอานะจ๊ะ

4. ดูแลตัวเอง ไม่ให้แก่ก่อนวัย
ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ การแต่วกาย รวมไปสุขภาพจิต คุณสาว ๆ ทั้งหลายก็ต้องดูแลตนเองเป็นอย่างดี ต้องรู้ว่าตอนนี้สาว ๆ เขามีเทรนด์การแต่งหน้าเป็นอย่างไร รู้จักใช้ผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวหน้าและผิวกาย หรือออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี เพื่อไม่ทำให้ตัวเองดูแก่ก่อนวัยอันควรหรือดูแก่เกินไปที่จะมาเป็นแฟนของเขา ไม่งั้นคนอื่น ๆ อาจจะมองคุณเป็นพี่สาวแทนแฟนก็ได้นะ

5. ทำทุกวันให้เป็นวันที่น่าประทับใจ
ถึงแม้ว่าในวันนั้นจะเป็นวันที่แย่หรือไม่ดีเอาซะเลยสำหรับเขา แต่คุณสาว ๆ ก็สามารถที่สร้างวันดี ๆ ให้กับเขาได้ เพียงแค่เรารู้วิธีเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสที่ดี เช่น ในวันนั้นเขาอาจจะมีเรื่องเครียด ๆ มา หรือมีเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ เราก็อาจจะเขาไปคุยกับเขาเล่าเรื่องตลก ๆ หรือพาเขาไปทานข้าวในร้านบรรยากาศดี ๆ ก็ช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้ และยังถือว่าเป็นการสร้างความประทับใจให้เขากับอีกด้วย (แค่นี้คะแนนของเราก็ขึ้นมาแล้ว อิอิ) นอกจากนี้ยังทำให้เขารู้ว่าอย่างน้อยก็มีคนพร้อมที่จะยืนอยู่เคียงเขาเสมอ ฯลฯ