ระหว่าง ‘ความรัก’ กับ ‘เซ็กส์’ สมองชาย-หญิงแยกแยะต่างกัน!

90 เปอร์เซ็นต์ของการนอกใจเริ่มจากผู้ชาย แต่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์มักจะยุติด้วยผู้หญิง เพราะผู้หญิงที่แต่งงานอย่างมีความสุขแล้วนอกใจสามีนั้นหายาก แต่ผู้ชายที่แต่งงานอย่างมีความสุขแล้วมีเล็กมีน้อยเป็นเรื่องปกติ สาเหตุที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายยุติความสัมพันธ์ก่อน เพราะเธอคิดว่าการนอกใจไม่มีความผูกพันทางอารมณ์ที่ยืนยาวและจะเป็นได้แค่ความสุขทางการเท่านั้น เธอจึงอยากยุติมัน

สมองของผู้ชายสามารถแยกเซ็กส์และความรักออกจากกันได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกหากเขาจะสนใจแค่ทีละอย่าง ซึ่งบ่อยครั้งเขาจึงพอใจกับความสัมพันธ์ทางกายที่ดี เพราะนั่นคือสิ่งที่ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของเขา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่ารักอยู่ส่วนไหนในสมอง ต่างกับผู้หญิงซึ่งมีการวิจัยพบว่าสมองของผู้หญิงมีเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างความรักและเซ็กส์ ซึ่งศูนย์กลางความรักจะถูกกระตู้นก่อนที่ศูนย์กลางเซ็กส์จะทำงาน แต่ผู้ชายดูเหมือนจะไม่มีความเชื่อมโยงนี้ ดังนั้นจึงทำให้เขามีความรักหรือเซ็กส์ที่แยกแยะออกจากกันได้โดยจะสังเกตได้ชัด เมื่อผู้หญิงถามผู้ชายที่ถูกจับได้ว่านอกใจ ‘คุณรักผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า' หากผู้ชายตอบว่า ‘เปล่า มันเป็นแค่เรื่องทางกาย ไม่มีความหมายอะไรเลย' นั่นมีแนวโน้มว่าที่พูดจะเป็นความจริง

 อย่างที่บอกข้างต้นว่า ผู้ชายสามารถแยกเซ็กส์และความรักออกจากกันได้ และนั่นคือสาเหตุที่ผู้หญิงมักจะไม่เชื่อเมื่อผู้ชายพูดแบบนี้ เพราะว่าสมองของเธอไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแยกแยะเซ็กส์กับความรัก เพราะสำหรับเธอเซ็กส์ก็คือความรัก ถ้าผู้หญิงนอกใจและบอกคุณว่ามันไม่มีอะไร อาจจะหมายความว่าเธอกำลังโกหก เพราะหากผู้หญิงจะข้ามเส้นไปมีเซ็กส์ เธอจะต้องมีความผูกพันทางอารมณ์กับชายคนใหม่ก่อน

มีคำพูดโบราณที่ว่า การร่วมรักคือสิ่งที่ผู้หญิงทำในขณะที่ผู้ชายร่วมเพศ ผู้ชายมักจะเรียกเซ็กส์ว่า ‘เซ็กส์' ในขณะที่ผู้หญิงมีแนวโน้มตอบสนองในแง่ลบต่อคำนี้ เพราะตามนิยามของผู้หญิงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้น ผู้หญิง ‘ร่วมรัก' หมายความว่าเธอต้องการรู้สึกว่าเป็นที่รักและต้องรู้สึกใคร่ก่อนที่จะมีเซ็กส์ เพราะเมื่อผู้ชายพูดว่า ‘เซ็กส์' บางครั้งเขาอาจหมายถึงเพียงความสัมพันธ์ทางกาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงของเขา เมื่อผู้ชายอยาก ‘ร่วมรัก' เขาก็ยังมีแนวโน้มจะเรียกมันว่า ‘เซ็กส์' อยู่ดี

 

Cr:: yaklai.com