5 ทริคเซฟงบงานแต่งงานแบบง่ายๆ สำหรับบ่าวสาวมือใหม่

หลังเซย์เยสตอบรับการแต่งงาน และได้ฤกษ์จัดงานแต่งงานเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือการที่ว่าที่บ่าวสาวจะต้องวางแผนจัดงานแต่งงาน และต้องมานั่งคิดกันว่าการจัดงานแต่งงานของเราจะต้องใช้งบแต่งงานเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งงานอะไรบ้าง เตรียมงานแต่งงานเอง หรือจะใช้แพลนเนอร์ โดยการจัดงานแต่งงาน เป็นสิ่งที่คู่บ่าวสาวต้องร่วมกันวางแผน และร่วมกันตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เพื่อบริหารเงินให้คุ้มค่าที่สุด ตัวเลขของงบงานแต่งงานจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งบ่าวสาวบางคู่อาจจะมีงบงานแต่งงานที่จำกัด และอยากใช้จ่ายเงินได้อย่างคุ้มค่า วันนี้มีทริคดีๆ ให้บ่าวสาวมือใหม่ได้นำไปเป็นตัวช่วยในการวางแผนจัดงานแต่งงาน เพื่อเซฟงบงานแต่งงานของคุณ และยังเป็นวิธีการใช้เงินแบบชาญฉลาด ที่สามารถช่วยให้คุณมีงานแต่งงานที่โรแมนติกและสง่างามได้อีกด้วย

งานแต่งงานแบบไหนที่อยากได้

ก่อนที่จะจัดสรรเรื่องงบงานแต่งงาน คุณต้องปรึกษากันเองก่อนว่า งานแต่งงานแบบไหนที่อยากจะได้ โดยพิจารณาจากความชอบของคู่บ่าวสาว ง่ายๆ เลยก็เลือกธีมงานแต่งงาน ว่าจะเอาธีมอะไร อาทิ ธีมรัสติค ธีมวินเทจ ธีมคลาสสิค รวมไปถึงธีมสีงานแต่งงาน จะจัดในแบบชิลๆ สบายๆ หรืออยากจะหรูหราหน่อยๆ ก็กำหนดไว้เลย ด้านรูปแบบของการจัดงานแต่งงาน จะจัดเป็นพิธีเช้า เลี้ยงบ่าย หรือพิธีเช้า เลี้ยงตอนค่ำ ฯลฯ แบบนี้ก็จะช่วยให้คุณกะเกณฑ์งบประมาณส่วนใหญ่ที่ต้องใช้ในงานแต่งได้ และเมื่อคู่บ่าวสาวสามารถเลือกรูปแบบการจัดงานแต่งงานได้ ก็จะง่ายในการเตรียมงานแต่งงานขั้นต่อไป ว่าเราจะเตรียมงานแต่งงานเอง หรือเลือกใช้ผู้ช่วยอย่างเวดดิ้งแพลนเนอร์มาค่อยดูแลงานให้ แต่ก็ต้องควรกำหนดงบเรื่องค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งงานไว้ก่อนจะดีที่สุด

จัดสรรงบงานแต่งงานออกเป็นส่วนๆ

เมื่อว่าที่บ่าวสาวสามารถแพลนงานแต่งงานไว้ว่าจะจัดงานแต่งงานออกมาเป็นรูปแบบไหนได้แล้ว ต่อมาก็ควรตั้งงบงานแต่งงานหากเลือกที่จะเตรียมงานแต่งงานเอง ว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่ สามารถเกินได้แค่ไหน โดยที่ตั้งงบกลางๆ เอาไว้ แล้วจัดสรรปันส่วนงบตรงนี้ว่าจะใช้กับอะไรบ้าง อาทิ

- ค่าการจัดพิธีการช่วงเช้า 10-15% ในการจัดการเรื่องพิธีการแบบพิธีไทย มักมีค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งในส่วนของข้าวของเครื่องใช้ทั้งเครื่องขันหมากทั้งขันหมากเอก ขันหมากโท ฯลฯ หรือ ถ้าเป็นพิธีการแบบจีน ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งในส่วนของค่าเครื่องใช้ในพิธีรับเจ้าสาว พิธีไหว้ฟ้าดิน และพิธียกน้ำชา รวมไปถึงค่าสินสอดทองหมั้นด้วย

- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าเช่าสถานที่ 40-50% ตรงนี้อาจจะใช้งบงานแต่งงานเยอะที่สุด แต่หากเราอยากเซฟงบให้เลือกที่จะจัดงานแต่งงานที่บ้าน หรือร้านอาหารแทนการจัดในโรงแรมหรูๆ โดยที่เตรียมงานแต่งงานเองทั้งหมด ทั้งนี้บ่าวสาวสามารถจะพิจารณาจากแพ็กเกจงานแต่งงานได้ โดยเลือกหลายๆ ที่แล้วนำมาพิจารณา ในด้านอาหารและเครื่องดื่ม หากจำนวนแขกมาเยอะเลือกจัดเลี้ยงแบบค๊อกเทล แทนการจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ หรือโต๊ะจีน

- แพ็กเกจภาพถ่ายและชุดแต่งงาน 5-10% จะไม่มีเลยก็ไม่ได้ โดยทางเลือกที่ดีที่สุดในการคุมค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งงาน โดยเลือกซื้อแพ็กเกจถ่ายภาพ Pre-Wedding นอกจากจะได้ภาพถ่ายสวย ๆ มาตั้งประดับหน้างานแล้ว ยังมีพร้อมทั้งชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาว และช่างแต่งหน้า-ทําผม มาให้พร้อมสรรพ ช่วยให้คู่บ่าวสาวควบคุมงบประมาณในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี เป็นต้น

ลิสต์รายชื่อแขกที่จะเชิญ

เอาจริงๆ แล้วค่าใช้จ่ายหลักอีกอย่างของการจัดงานแต่งงาน จะอยู่ที่เรื่องของจำนวนแขกที่จะเป็นตัวชี้งบงานแต่งงานที่สำคัญ ดังนี้บ่าวสาวควรจะคิดคำนวนไปเลยว่าจำนวนของแขกทั้งสองครอบครัว มีเยอะหรือไม่ ควรเชิญเท่าไหร่ใครบ้างที่ต้องเชิญ เพื่อนสนิท ญาติสนิท ถ้าจัดงานแบบเล็กๆ ประหยัดงบก็ไม่เกิน 200 คน เพราะแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งงาน จะแปรผันตามจำนวนของแขก ทั้งเรื่องของค่าอาหาร ค่าสถานที่จัดงานแต่งงาน ค่าการ์ดแต่งงาน ค่าของชำร่วย ค่าเครื่องดื่ม เป็นต้น

 

เลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน

เนื่องจากค่าใช้สถานที่ในโรงแรมค่อนข้างสูง บางแห่งสูงมากจนไม่สามารถเอื้อมถึงแม้จะสวย หรูหราแค่ไหนก็ตาม แต่หากเรามีงบงานแต่งงานที่จำกัด หรือต้องหารที่จะเซฟค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งงาน อาจจะเปลี่ยนจากการจัดงานในโรงแรม เป็นสโมสร สมาคม ร้านอาหาร เรือนไทย หรือจัดงานแต่งงานเองที่บ้าน รวมทั้งเตรียมงานแต่งงานเอง จะเป็นการช่วยเซฟงบได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็พิจารณาจากจำนวนแขกที่จะมาร่วมงานด้วยอีกทีค่ะ

จัดลิสต์รายละเอียดของที่จำเป็น

อีกเรื่องที่จะเซฟงบงานแต่งงานได้ ไม่ว่าจะการเตรียมงานแต่งงานเอง หรือให้ใครมาช่วยเตรียม โดยการจัดลิสต์รายการเอาไว้ว่ามีสิ่งของอะไรบ้างที่เราต้องใช้จัดงานแต่งงานอาทิเช่นแบ็คดรอป ต้องเป็นแบบไหน ถ้าใช้ดอกไม้ทั้งหมดอาจจะมีราคาแพง อาจจะใช้ดอกไม้แค่ 30% ก็พอ โซฟาจะต้องเป็นหลุยส์สีทองไหม ซุ้มทางเข้างาน ป้ายหน้างาน เซ็นเตอร์พีช ฯลฯ พอลิสต์ได้แล้วว่าจะใช้อะไรก็มาจัดเรียงลำดับความจำเป็นดูอีกที ที่สำคัญควรระบุไปด้วยว่าแต่ละอย่างคุณยอมจ่ายได้เท่าไหร่ เมื่อคุณไปหาซื้อ หรือติดต่อกับผู้ให้บริการ จะได้มีราคาที่คุณรับได้ และสามารถที่จะต่อรองได้ ถ้าราคาแพงเกินไปก็ตัดทิ้งไปได้เลย

 

เรื่องของงบงานแต่งงาน และค่าใช้จ่ายจัดงานแต่งงาน เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และสำคัญ ต้องจัดสรรให้ดี หรือถ้าจะให้ดี ลองคุยกันและแบ่งกันไปเลยว่าฝ่ายเจ้าบ่าวต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง และฝ่ายเจ้าสาวต้องจ่ายอะไร ก็ได้ค่ะ เพื่อให้ใช้เงินทุกบาทให้คุ้มค่า แล้วใช้คำแนะนำด้านบนเป็นตัวช่วยในการจัดสรรงบงานแต่งงานของคุณให้ออกมาได้ดั่งใจ