ไม่ทิ้งเขาให้รับมือเพียงลำพังหากดูทรงแล้ว งานแต่งครั้งนี้จำเป็นต้องมีค่าสินสอดแน่ๆ ลองแสดงความรักของเราให้แฟนหนุ่มเห็น โดยเสนอตัวช่วยหาและช่วยเก็บค่าสินสอดไปพร้อมกันกับเขา แฟนหนุ่มของคุณอาจจะเข้าใจคุณมากขึ้นและรู้สึกดีขึ้น เพราะนี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า คุณเป็นผู้หญิงที่พร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาอย่างแท้จริง
ตกลงกับพ่อแม่ให้เรียบร้อย
หลังจากเกริ่นบอกกับแฟนหนุ่มไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงครอบครัวของเรา จุดนี้ขึ้นอยู่กับว่าครอบครัวของใครเป็นอย่างไร หากครอบครัวที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องค่าสินสอด เรียกไม่มาก หรือได้มาก็คืนให้บ่าวสาวหมด แบบนี้ก็โล่งกันไป แต่ถ้าครอบครัวไหนเคร่งครัด ต้องทำตามประเพณีไทยทุกอย่าง ก็อาจต้องอธิบายให้พ่อกับแม่เข้าใจถึงสถานะความเป็นจริง ทั้งเรื่องฐานะของว่าที่เจ้าบ่าว ว่าอยู่ในฐานะร่ำรวย ปานกลาง หรือระดับพื้นฐาน ซึ่งจะสัมพันธ์กับค่าสินสอดที่พ่อแม่ต้องการ
โดยส่วนมาก ปัญหาจะไม่เกิด หากแฟนหนุ่มของคุณมีเงินทองล้นเหลือ แต่ในกรณีที่แฟนของคุณก็เป็นผู้ชายธรรมดา ที่ทำงานหนัก คุณอาจตกลงกับครอบครัวของคุณ โดยอาจจะเสนอทางออกแบบพบกันครึ่งทางดังนี้
1. เก็บครึ่งคืนครึ่ง
เป็นการพบกันครึ่งทาง คือหลังจากผ่านงานแต่งงานไปแล้ว พ่อแม่เก็บสินสอดไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งก็ส่งคืนให้กับแฟนหนุ่มของคุณ
2. ผ่อนจ่าย
ลองคุยกับพ่อแม่ว่า แม้ว่าในงานจะไม่มีค่าสินสอดมากมายมาอวดใครๆ แต่หลังจากแต่งงานไปแล้ว แฟนหนุ่มจะช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านเป็นงวดๆ ไปจนกว่าจะครบ หลายครอบครัวก็ยอมรับในเงื่อนไขนี้ได้เป็นอย่างดี
3. ไม่มีสินสอด แต่จัดงานแบบเต็มที่
หนุ่มๆ หลายคนอาจจะไม่เก็ทเรื่องค่าสินสอด แต่เก็ทเรื่องการจัดงานที่อลังการก็ได้ ลองยื่นข้อเสนอว่า ในงานไม่มีค่าสินสอด แต่จัดงานให้ยิ่งใหญ่ไม่อายใคร พ่อแม่ของบ่าวสาวบางคู่ก็ยินดีค่ะ
ทั้งนี้การตกลงเรื่องค่าสินสอดกับผู้ใหญ่จะได้ผลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความคิด ทัศนคติ และค่านิยมทางสังคมของแต่ละครอบครัว อาจจะลำบากสักนิด แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีพิสูจน์รักได้เหมือนกันนะคะ
แต่งงานแบบสายสตรองสุดท้ายแล้ว
ก็มีสาวๆ หลายคนที่คิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ บางคนก็เลือกที่จะออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เองทั้งหมด หรือบางคนก็แก้ปัญหาด้วยการไม่จัดงาน แต่จดทะเบียนสมรส เดินเข้าประตูวิวาห์แบบเรียบง่าย ซึ่งวิธีนี้อาจเหมาะกับสาวมั่น หัวสมัยใหม่สักหน่อย แต่ก็มีสาวๆ หลายคนเลือกใช้วิธีนี้ และมีครอบครัวที่มีความสุขได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสาวๆ จะเลือกวิธีไหนในการแก้ปัญหา Happy Wedding.Life ก็ขอเอาใจช่วยให้ทุกคนได้มีชีวิตคู่ที่ดี และมีความสุขไปนานๆ เลยนะคะ
