แต่มีกี่คนที่เข้าใจว่า คนที่รักการเติบโต เขาไม่ทำตัวเป็นภาระ ให้อีกฝ่ายต้องห่วง
จะเติบโตไปด้วยกันได้ เกิดจากการสนับสนุนกัน ไม่ใช่ถ่วง พลัดกันเป็นเตี้ยอุ้มค่อม ค่อมอุ้มเตี้ย
ถ้าอยากมีคู่เพราะหวังพึ่งพาคนพาเติบโต แปลว่าเรายังไม่โตพอ
คนที่พร้อมจะเติบโตคือคนที่รักที่จะส่งเสริมอีกฝ่ายและรักตัวเองเป็นแล้ว
คนที่สงสัยว่า เก่งแล้วจะมีคู่ไปทำไม? เพราะเข้าใจว่า เพราะไม่เก่งไงเลยต้องพึ่งคนอื่น จึงต้องมีคู่
อันนี้อยากให้ดูนิยามทางใจเป็นหลัก ความสามารถเป็นเรื่องภายนอก แต่ความตั้งใจนี่เป็นเรื่องหลัก
ถ้าเริ่มต้นด้วยทัศนคติว่าใจเราอ่อนแอ เราก็ต้องหาที่พึ่งตลอดไป
แต่ถ้าเราเริ่มทัศนคติว่า เราจะตั้งใจพัฒนาตัวเอง แม้จับคู่ผิด เราก็อาศัยเป็นการเรียนรู้
ความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง และปัญญาตรงนี้แหละ คือความรักตัวเองที่ทุกคนต้องมีเป็นจุดเริ่ม ถ้าใจเข้มแข็งแล้ว มันไม่ดึงตัวเอง ถ่วงคนอื่น
มีใจเริ่มต้นอย่างนี้แล้ว ความสามารถนี่เกื้อกูลกัน ส่งกันได้ในภายหลัง
ดังนั้นที่ว่า อยากมีคู่ที่เกื้อกูลกันนี่ เราพร้อมจะโตหรือเปล่า? เราพร้อมจะโต หรือแค่อยากเป็นเป็นเด็กที่มีคนคอยดูแล สนับสนุน
เพราะเรื่องของใจนี่ไม่มีใครช่วยให้ใครเข้มแข็งได้จริงนะ ถ้าตัวเรายังคงยอมอ่อนแอ และหวังพึ่งคนอื่น ถ้าเข้มแข็งเพราะคนอื่น มันเข้มแข็งหลอก ๆ ไม่มีอีกฝ่ายแล้วทำอะไรไม่ได้ ไปต่อไม่เป็น บางคนแทบตายเลย อันนี้ไม่ได้เรียกเข้มแข็ง และคนที่รักกัน เค้าไม่ได้รักกันเพื่อขาดกันไม่ได้
ถ้าเราไม่มีปัญญา ก็รักตัวเองไม่ได้ ดูแลคนอื่นไม่เป็น
คนไม่มีปัญญา ไม่รู้จักรักทั้งคู่ รักกันก็พากันจมน้ำได้นะ
เมื่อใจเราเข้มแข็งแล้ว ถามว่าเก่งกับเก่งจะอยู่ด้วยกันทำไม อยู่กันเพื่ออะไร
เพิ่งได้คำตอบนี้จากอาจารย์เมื่อวันก่อน เพื่อ"คนอื่น"ไง
ความรัก.. ไม่ใช่เพื่อตัวเอง