ความอดทน ? อันที่จริงแล้วอาจจะไม่ได้เป็นเพราะคำว่าไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันหรือความคิดเห็นไม่ตรงกันทั้งหมดหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะว่าความ "อดทน" ต่างหาก ที่คู่รักสมัยนี้ไม่ค่อยจะมีกัน จนนำไปสู่เหตุผลอื่นๆ มากมาย ที่ตามมาเป็นเหมือนกับข้อแก้ตัวให้ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องรู้สึกผิดกับการที่ตัวเองไม่มีความอดทนกัน ซึ่งหากจะให้ย้อนไปไกลกว่าต้นเหตุของการหมดความอดทน หรือการที่คู่รักสมัยนี้มีความอดทนต่ำนั่น อาจจะเป็นเพราะว่าในยุคนี้ การที่คนเราจะเจอกัน หรือว่าจะได้คุยทำความรู้จักกันนั้น ถือว่าเป็นอะไรที่ง่ายมากเนื่องจากเรามีอินเตอร์เน็ต มีโลกของโซเชียลต่างๆ ที่สามารถย่นระยะทาง และทำให้เราได้พบปะกับคนอื่นตลอดจนได้พูดคุยกันอย่างง่ายดาย ไม่ต้องอดทน ไม่ต้องรอคอย พอเจออะไรที่มันยากเข้าหน่อย ก็เลยถอดใจง่ายๆ กันไป
ยกตัวอย่าง เช่น ยุคสมัยพ่อกับแม่ เมื่อก่อนจะจีบกันก็ต้องเดินทางไกลเพื่อจะนัดพบกันแต่ละครั้ง หรือบางทีเมื่ออยู่ไกลกันมากๆ ก็ต้องใช้บริการส่งจดหมาย ซึ่งกว่าผู้รับจะได้รับจดหมายแต่ละฉบับก็ต้องใช้เวลานานหลายวัน ผิดกับสมัยนี้ที่เพียงแค่เรากดคลิกเดียว ข้อความหรือคำพูดต่างๆ ก็จะส่งถึงผู้รับทันที หรือหากอยากได้ยินเสียง และอยากเห็นหน้า ก็มีช่องทางอื่นๆ ให้เราได้พบหน้ากันอย่างรวดเร็วเช่นการ Video Call หาคนที่เราอยากคุย ดังนั้นการส่งจดหมายจีบกัน จึงเป็นอะไรที่ดู มีคุณค่า และต้องใช้ความอดทน รวมถึงใช้ความตั้งใจในการรอคอย และเมื่อผู้รับได้อ่านจดหมายแล้วยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจ และรู้สึกว่าจดหมายที่ถูกส่งมาจากคนรักนั้นดูมีคุณค่า และเป็นสิ่งที่ต้องเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี
ซึ่งถ้าหากเรามองดูดีๆ ก็จะพบว่าความรักของคนในสมัยก่อนนั้นแตกต่างกับคนในสมัยนี้เป็นอย่างมาก เพราะต้องใช้ความอดทนตั้งแต่ที่ยังไม่เริ่มคบเป็นแฟนกันเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเวลาที่พวกเค้าจะทะเลาะกัน หรือคิดอยากจะเลิกกับภาพของความทรงจำ และอุปสรรคต่างๆ ที่คู่รักรุ่นก่อนๆ ได้ฝ่าฟันกันมา มันก็จะขึ้นมาย้ำเตือนให้เขาทั้งคู่ได้มีเวลาคิดไตร่ตรอง และคิดถึงความยากลำบากของความรักที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และได้มาง่ายๆ เหมือนคนในสมัยนี้ ซึ่งนี่เองอาจทำให้ความอดทนของคนทั้งคู่เวลามีปัญหากันหรือมีปากเสียงกัน มีขีดกำจัดที่มากกว่าคนรุ่นใหม่
อีโก้สูงเกินไป ฉันไม่แคร์ "อีโก้สูง" ถือว่าเป็นคำที่สร้างความพังพินาศให้กับคู่รักมานักต่อนักแล้วค่ะ เห็นได้จากคู่รักคนดังหลายๆ คู่ที่เพิ่งจะเลิกรากันไป บางคู่หลังจากแต่งงานกันไปความมีอีโก้ของทั้งคู่มีมากขึ้น ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนแตกขยายมาจากเรื่องไม่มีความอดทนนั่นแหละค่ะ เพราะในเมื่อฉันไม่อยากอดทนกับเธอแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแคร์ หรือเอาเรื่องของเธอมาทำให้ฉันต้องเครียดอีกต่อ ไป ซึ่งไอ้คำว่า
"ไม่จำเป็น" ที่จะต้องอดทนกับเธอแล้ว มันก็คือความมีอีโก้สูงอย่างหนึ่ง และด้วยการที่เราคิดว่าเราสามารถพบเจอคนใหม่ หรือหาแฟนใหม่ได้อย่างง่ายดาย เพราะโลกในยุคนี้ทำให้เราสามารถเจอใครได้ง่ายขึ้น เพียงแค่เล่นแอพพลิเคชั่นแชท หรือไปเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ ยิ่งทำให้เป็นตัวจุดไฟเผาความอดทนที่จะฟันฝ่าอุปสรรค์ของความรักที่เกิดขึ้นนั่นเองค่ะ ด้วยเหตุนี้เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มคิดว่าอะไรๆ มันก็เป็นเรื่องง่ายไปหมด แม้แต่การเจอคนรัก มันเลยทำให้ความรักของคนในปัจจุบันไม่ยาวนานเท่าที่ควร เมื่อมีปัญหาก็เลือกที่จะตัดปัญหาด้วยการเลือกที่จะไปเจอคนใหม่ โดยที่ไม่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้นและร่วมกันหาทางออก
