เหล่าพ่อบ้านใจกล้ามีเฮ พบวิธีเล่นโซเชียวไม่ให้รักร้าวฉาน!

เราเห็นหลายคู่ที่ชีวิตรักพังเพราะเล่นเฟสบุ๊คหรืออินสตาแกรมมานักต่อนัก ทั้งมีกิ๊กแล้วถูกจับได้หรือหนีเที่ยวแล้วเพื่อนดัน tag รูป ใครเจออย่างนี้คงอยากปิดเฟสบุ๊คไปเลยเพื่อความอยู่รอดของชีวิตคู่ จากการสำรวจผู้ใช้งานเฟสบุ๊คจำนวน 205 คน ในประเด็นที่ว่า พวกเขาเข้าอินเตอร์เน็ตบ่อยขนาดไหน และเคยมีปัญหากับแฟนที่เพิ่งเลิกราหรือกำลังคบกันอยู่เพราะเฟสบุ๊คบ้างหรือไม่ ถึงขั้นเลิกกันไปเลยหรือนอกใจแฟนเพราะเฟสบุ๊คบ้างหรือเปล่า ผลปรากฏว่า ส่วนใหญ่คนเราใช้งานเฟสบุ๊คทุกวัน คนที่เล่นเฟสบุ๊คบ่อยๆ มักมีปัญหากับคนรักและเป็นปัญหาหนักหัวเสียด้วย หนำซ้ำยังเกิดกับคู่รักที่คบกันไม่เกิน 3 ปี เราเลยอดคิดไม่ได้ว่าความรักยุค 2013 มีเฟสบุ๊คนี่แหละเป็นตัวการทำลายความสัมพันธ์ โดยเฉพาะคู่ที่ไม่มั่นคงอยู่แล้วต่ถ้าคุณไม่อยากเลิกราเพราะโซเชียลมีเดียลองทำตามคำแนะนำจากเรารับรองว่าเฟสบุคทำอะไรคุณทั้งคู่ไม่ได้แน่

 


เหล่าพ่อบ้านใจกล้ามีเฮ พบวิธีเล่นโซเชียวไม่ให้รักร้าวฉาน!

กฎข้อที่ 1 อย่าเปลี่ยนสถานภาพพร่ำเพรื่อ

ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์เห็นด้วยว่า ข้อเสียใหญ่หลวงของโซเชียลมีเดียคือการตีไข่ใส่ข่าวจนเหมือนเป็นเรื่องจริงก่อนที่จะแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ "คุณต้องคุยกับอีกฝ่ายก่อนที่จะเปลี่ยนสถานภาพ" เวนดี้ เวลช์ (Wendy Walsh) คุณหมอผู้แต่งหนังสือ the 30-Day Love Detox กล่าว ไม่ใช่ทึกทักเอาเองว่าอีกฝ่ายต้องการเปิดตัวว่าคบกัน เอาเข้าจริงอีกฝ่ายไม่เล่นด้วยแล้วปล่อยให้คุณเก้ออยู่คนเดียว สิ่งที่ไม่ควรลบหรือเปลี่ยนคือรูปคู่ที่ถ่ายด้วยกันตอนยังไม่เป็นแฟน หรือเดตสำคัญๆ ที่ควรจดจำ "เมื่อความสัมพันธ์เดินทางมาถึงจุดเปราะบาง สิ่งสำคัญคือความเป็นส่วนตัว เพราะความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต้องการความเป็นส่วนตัวประคับประคองให้มันเติบโต"


กฎข้อที่ 2 หยุดเข้าไปวุ่นวายกับเฟสบุ๊คเขาซะที

จากการศึกษาวิจัย การเล่นเฟสบุ๊ควันละหลายๆ รอบเนี่ยไม่ค่อยดีอยู่แล้ว คุณควรกำหนดว่าในวันหนึ่งๆ จะโพสต์สเตตัสหรือถ่ายรูปลงอินสตาแกรมกี่หน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณชอบเข้าไปเช็กเฟสบุ๊คบ่อยๆ ว่าใครทำอะไรที่ไหน แม้ตอนกำลังกินข้าวกับแฟนหรืออยู่ในโรงหนัง หรือเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำเลยหยิบมือถือขึ้นมาดูเฟสบุ๊คชาวบ้าน พฤติกรรมเหล่านี้พานให้อีกฝ่ายคิดว่าคุณไม่เห็นความสำคัญของเขาเลย


กฎข้อที่ 3 อย่าเล่นเฟสบุ๊คตอนอารมณ์เหวี่ยง

ถ้าเพิ่งทะเลาะกับแฟนหรือเพิ่งโดนเจ้านายด่ามาหยกๆ สิ่งที่ควรทำคือ ปิดคอมพิวเตอร์ (และมือถือ) ก่อนเดินไปสงบสติอารมณ์ อย่าปล่อยให้ตัวเองโพสต์ข้อความระบายความรู้สึกหรือพูดอะไรไม่คิดให้เพื่อนเป็นร้อยเป็นพันคนอ่าน อีกอย่างเฟสบุ๊คสมัยนี้เป็นเหมือนศูนย์รวมของสิ่งที่คุณอยากและไม่อยากเห็น ไม่ว่าจะเป็นรูปเปิ่นๆ สมัยเด็ก หรือรูปแฟนกับคนรักเก่า ถ้าคุณเข้าไปเห็นทุกอย่างจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก


กฎข้อที่ 4 ระวังถ้าจะเป็นเพื่อนกับคนรักเก่า

หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ความสัมพันธ์แตกร้าวเยอะสุดจากการเล่นเฟสบุ๊คคือ มันเป็นเครื่องมือติดต่อกับบรรดาแฟนเก่าหรือกิ๊กทั้งหลาย แน่นอนว่าประเด็นนี้จะทำให้คู่รักตีกันบ้านแตก (ข้อถกเถียงสุดคลาสสิกคือ ทำไมต้องเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า) หากคุณไม่อยากมีปัญหาเรื่องแฟนเก่าเพราะในตอนนี้คุณก็มีใหม่ไปแล้ว สิ่งสำคัญคือคุณต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ว่าคุณจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าในเฟสบุ๊คก่อนที่จะเจอเขาหรือหลังจากคบกับเขาแล้วก็ตาม รวมถึงระมัดระวังการกระทำของคุณเอง 


กฎข้อที่ 5 โชว์หวานบ้างก็ดี

อย่าเพิ่งคิดมากว่าโซเชียลมีเดียมีแต่ข้อเสีย ในความเป็นจริงคู่รักที่โพสต์รูปหวานๆ หรือขึ้นรูปโปรไฟล์เป็นรูปคู่ รวมถึงแชร์สิ่งต่างๆ กับแฟนมีแนวโน้มที่จะมีความสุขมากกว่า การโชว์หวานเล็กๆ น้อยๆ ในโลกออนไลน์ดีต่อความสัมพันธ์ "มันแสดงให้เห็นว่า แม้คุณจะเล่นเฟสบุ๊คแต่ก็ใช่ว่าจะทอดทิ้งไม่ดูดำดูดีคนรักไปเลย คุณต้องให้ความสำคัญกับเขาด้วย" ดังนั้นถ้าอยากโพสข้อความบนหน้าวอลล์แฟน หรือ tag ชื่อเขาบ่อยๆ ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำ - ทำได้เลย แต่อย่าให้มันโอเวอร์จนคนหมั่นไส้ อย่างนั้นมันดูไม่ค่อยจริงใจเท่าไร


ที่มา - womenshealththailand


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์