ทำไมเมียผมขี้โมโห?เหตุผลอธิบายความโกรธผู้หญิง ที่ผู้ชายต้องรู้

ทำไมเมียผมถึงขี้โมโห? 3 เหตุผลอธิบายความโกรธของผู้หญิง ที่ผู้ชายต้องรู้

คุณยังจำช่วงเวลาแรกๆที่รักกันปานจะกลืนกินได้หรือไม่ เวลาที่ใครทำอะไรก็ไม่ผิด ไม่โกรธ ในภาษาไทยเราเรียกช่วงเวลานี้ว่า ช่วงเวลาของคู่ข้าวใหม่ปลามัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปปัญหาก็จะเริ่มเกิดขึ้น มาก น้อย ต่างกันออกไป ในทุกๆคู่ แต่บางครั้ง ผู้ชายอาจจะมีคำถามขึ้นมาในใจว่า ทำไมเมียผมถึงขี้โมโห? ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนเธอก็จะดูพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะลืมนม ทำความสะอาดไม่เกลี้ยงราวกับว่า เธอกำลังเปิดโหมด โมโห อยู่

เราเข้าใจความงุนงงที่คุณผู้ชายมีอยู่ เราเลยมีคำแนะนำมาบอก ว่าทำไมคุณเมียถึงโมโหตลอดเวลา ผู้หญิงแต่ละคนถ่ายทอกความโกรธออกมาแตกต่างกันอย่างไร และคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง

เข้าใจความโมโหของผู้หญิง

ก่อนที่คุณจะรู้ว่าทำไมผู้หญิงถึงขี้โมโห หรือ โมโหตลอดเวลา คุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ผู้หญิงและผู้ชายมีอารมณ์ ความรู้สึกต่างกันอย่างไร ตามความเชื่อของสังคมนั้น เรารู้กันอยู่ว่า ผู้ชายจะโมโหง่ายกว่าผู้หญิง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องจริง งานวิจัยเผยว่า ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีความโกรธที่เท่าๆกันแต่เลือกที่จะแสดงออกมาด้วยวิธีที่แตกต่างกัน

ตามครรลองของสังคม ผู้ชายสามารถแสดงออกด้านความโกรธได้อย่างเปิดเผย ส่วนผู้หญิงมักจะถูกสอนให่ซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใน Sandra Thomas นักจิตวิทยาอธิบายว่า ผู้ชายมองว่าความโกรธเป็นอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นชาย เพราะฉะนั้นการมีปากเสีย หรือ ต่อยตี จะถูกมองว่าเป็นเรื่งที่ แมนๆทำกัน แต่สำหรับผู้หญิง การที่เธอแสดงออกถึงความโมโหนั้นเป็นอะไรที่ไม่เหมาะ ไม่ควร ดูไม่งาม ทำให้ผู้หญิงต้องเก็บงำอารมณ์ไว้ข้างใน

งานวิจัยในปี 1993 ที่สุ่มกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงอายุ 25 ถึง 66 ปี จำนวน 535 คน ผลของการวิจัยสรุปได้ว่าต้นเหตุของความโมโหในผู้หญิงเกิดจาก ความไม่มีอำนาจในบริบทสังคม ความไม่ยุติธรรม และความไม่รับผิดชอบของผู้อื่น

พอรู้อย่างนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่า ว่าทำไมผู้หญิงถึงโมโห

เธอเหนื่อยมากๆ
ไม่ใช่แค่เหนื่อยธรรมดา แต่เหนื่อยขาลาก ทั้งทางจิตและทางกายภาพ เธออาจจะต้องวิ่งจับลูกมาทั้งวัน เธออาจจะพึ่งกลับมาจากการทำงาน เธอตื่นนอนทั้งคืนเพื่อกล่อมลูก เธออาจจะต้องปะทะอารมณ์กับเจ้าตัวเล็กที่โมโหร้ายไม่ยอมหยุด คุณพ่ออาจจะไม่ได้เห็นเวลาที่แม่ต้องเลี้ยงลูก หรือต้องทำงานบ้านไปด้วย คุณพ่อสามารถแบ่งเบาภาระคุณแม่ ได้โดยช่วยทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ หรือช่วยเลี้ยงลูกในบางครั้ง

เธอเจอความไม่ยุติธรรมของงานที่จำเป็น
มีงานจุกจิกหลายอย่างที่แม่ต้องทำอย่าเลี้ยงไม่ได้ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นทำคามสะอาด ล้างจาน ถูกบ้าน ทำอาหาร พาลูกไปหาหมอ ป้อนยา และอย่างอื่นอีกมากมาย เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ติดมากับการเป็นแม่ และ เป็นผู้หญิง ที่ถูกสั่งสอนมาว่าต้องทำงานบ้าน งานเหล่านี้นอกจากเหนื่อยกายแล้ว ยังเหนื่อยใจอีกต่างหาก

รู้สึกไม่มีค่า
แม่อาจจะเจอคนรอบข้างบอกว่าวันๆนอนเลี้ยงลูกเฉยๆไม่ทำอะไร นั่นเป็นความเข้าใจผิดของคนภายนอก ว่าการเป็นแม่นั้นง่ายดาย คุณแม่อาจจะรู้สึกแย่จากคำพูดเหล่านั้น ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่ได้ทำงาน คุณพ่ออาจจะช่วยเหลือคุณแม่ได้โดยการ คอยสนับสนุน อยู่ข้างๆและให้กำลังเวลาที่คุณแม่เศร้า